“ปากกา” หนึ่งในเครื่องเขียนที่ทุกคนต้องมีติดกล่องดินสอ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการเขียน แต่มีน้อยคนที่จะให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อ เพราะคิดว่ายี่ห้อไหนก็เหมือนกันหมด ขอแค่เขียนติดก็พอ แต่ความจริงแล้วปากกามีหลายประเภทเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำหมึก ซึ่งแต่ละน้ำหมึกนั้นก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด เรามาศึกษา “วิธีการเลือก” กันดีกว่าค่ะ
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ไม่มีเวลามานั่งอ่านวิธีการเลือกทีละข้อ เราก็มี “10 อันดับ สินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบราคา, คุณสมบัติและรีวิว มาฝากเพื่อให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลือกซื้อได้เร็วขึ้นค่ะ จะน่าสนใจสักแค่ไหน ตามมาอ่านกันเลยดีกว่า
ตามที่ผู้เขียนได้เกริ่นไปในตอนต้น ปากกามีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น ชนิดของน้ำหมึก ความหนาของเส้น ความลื่นหรือแม้แต่แพ็กเกจ เราควรจะเลือกอย่างไร ลองทำตามวิธีด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
น้ำหมึกในปากกาที่เราเห็นกันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีข้อดี-ข้อเสียและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นการรู้จักคุณสมบัติของแต่ละหมึกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หมึกน้ำเป็นประเภทที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ปากกาเป็นประจำ มีข้อดีคือไม่ต้องออกแรงมากก็เขียนได้ลื่น เม็ดสีสวย ได้เส้นคมชัด น้ำหมึกเมื่อแห้งแล้วไม่เปรอะเปื้อน อย่างไรก็ตาม ความหนาบางและคุณภาพของกระดาษอาจมีผลทำให้หมึกซึมทะลุไปด้านหลังกระดาษได้ เพื่อน ๆ จึงควรตรวจสอบเอกสารหรือสมุดที่จะนำไปใช้งานให้ดี นอกจากนี้หลังใช้เสร็จก็อย่าลืมปิดฝาปากกาให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหมึกแห้งจนใช้การไม่ได้อีกค่ะ
เคยเป็นกันไหมคะ ปากกาที่ใช้อยู่เขียนแล้วแห้งช้า หมึกไหลเยิ้ม พอมือปัดไปโดนทีน้ำหมึกตวัดเป็นหางเลย ถ้าเคยล่ะก็ แนะนำให้หันมาเลือกใช้ปากกาประเภทนี้ค่ะ เพราะด้วยส่วนผสมของน้ำมันทำให้ทนต่อน้ำและความชื้นได้ค่อนข้างดี เวลาเขียนหมึกจึงแห้งเร็ว ไม่ไหลซึมทะลุหน้าหลังของกระดาษ นอกจากนี้ยังติดทนนาน ไม่ซีดจางไปตามกาลเวลา เหมาะกับการเขียนงานที่ต้องการเก็บไว้ใช้นาน ๆ
ข้อเสียเล็กน้อย คือ สีสันไม่สวยเท่าประเภทหมึกน้ำ นอกจากนี้ยังมีปัญหาหมึกตัน เขียนไม่ออกและเสี่ยงต่อการชำรุดได้ง่าย
หมึกเจลถือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยากได้ “หมึกลื่นเขียนง่าย”, “สีสวย” แบบปากกาหมึกน้ำ แต่ “แห้งเร็ว” และ “ไม่ไหลซึม” เหมือนปากกาหมึกน้ำมัน เพราะเนื้อสัมผัสของน้ำหมึกแบบเจลจะอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสองแบบ แถมยังมีให้เลือกหลากหลายสี เหมาะสำหรับงานเขียนแทบทุกแบบรวมไปถึงการวาดรูปด้วย
แน่นอนว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ปากกาหมึกเจลเองก็มีข้อเสียด้วยเหมือนกัน นั่นคือ “หมดไว” เพื่อน ๆ จึงจำเป็นต้องซื้อรีฟิลเติมอยู่เสมอ แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติต่าง ๆ แล้ว หมึกประเภทนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ
ปกติแล้วขนาดของหัวปากกาจะมีตั้งแต่ 0.3 มม.ไปจนถึง 1.0 มม. ซึ่งขนาดหัวจะบ่งบอกถึงความหนาของเส้น ชาว mybest จึงควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองนะคะ ถ้าหากคุณใช้สำหรับกรอกข้อมูลบนเอกสารหรือเขียนจดหมาย แนะนำให้ใช้ปากกาขนาด 0.33 มม. หรือ 0.38 มม. เพราะตัวอักษรจะเส้นเล็ก สามารถเขียนเบียดกันได้เยอะกว่า ในขณะที่ถ้าใครเป็นคนเขียนมือหนักหรือต้องการเส้นที่หนา ชัดเจน ให้เลือกหัวขนาด 0.7 มม. หรือ 1.0 มม.
นอกเหนือจากนี้ หากใครต้องใช้ปากกาเป็นระยะเวลานาน แนะนำให้เลือกรุ่นที่หุ้มยางบริเวณ Grip Zone นะคะ (บริเวณที่จับปากกา) เพราะจะช่วยถนอมนิ้วไม่ให้เจ็บและลดอาการเมื่อยนิ้วได้
หลังจากเลือกจากประเภทน้ำหมึกไปแล้ว คราวนี้เรามาลองเลือกโดยใช้ลักษณะ “การใช้” ของเรากันบ้างค่ะ หากคุณเป็นคนใช้ปากกาถี่และต้องการการเขียนที่รวดเร็ว แนะนำให้เลือกปากกาลูกลื่นแบบกดหรือแบบหมุนแทนแบบฝาปิด และยิ่งถ้าคุณไม่ชอบพกกล่องดินสอหรือมีอาชีพเกี่ยวข้องกับฝ่ายบริการลูกค้าหรือเซลล์ด้วยล่ะก็ การเลือกซื้อปากกาที่มีคลิปหนีบก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะจะช่วยให้คุณใช้งานง่ายและดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ทุกวันนี้ปากกาถูกทำให้เป็นมากกว่าปากกาไปแล้วค่ะ บางรุ่นก็เป็น Smart Pen ใช้กับสมาร์ทโฟนได้ บางรุ่นก็มียางลบสำหรับลบปากกาแถมมาด้วย ซึ่งแต่ละรุ่นใช้งานยากง่ายต่างกันไป ชาว mybest จึงอย่าลืมคำนึงถึงข้อนี้เชียวนะคะ จะได้ไม่พลาดซื้อแท่งที่ใช้ไม่ถนัดมา
หลายคนอาจไม่ได้สังเกตว่าปากกาบางรุ่นจะมีส่วนท้ายเป็นซิลิโคนลักษณะกลมมนเหมือนยางลบปากกา แต่ไม่ได้มีไว้ลบนะคะ เอาไว้ใช้เป็น Touch Pen ของสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ตต่างหาก ดังนั้นใครที่ต้องใช้อุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา แนะนำให้เลือกปากกาประเภทนี้ค่ะ เพื่อความสะดวกสบาย
บางคนอาจจะสงสัยว่าถ้าเขียนผิดบ่อย ทำไมไม่พกลิควิด แต่ถ้าคุณเป็นเซลล์หรือฝ่ายบริการลูกค้า การรอลิควิดแห้งถือเป็นเรื่องเสียเวลามากเลยค่ะ นอกจากนี้การพกเครื่องเขียนหลายชิ้นยิ่งทำให้การทำงานลำบากมากขึ้นด้วย การใช้ปากกาที่มียางลบในตัวจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม น้ำหมึกชนิดนี้จะไม่คงทนเหมือนหมึกชนิดอื่น หากอุณหภูมิสูงประมาณ 60 องศา เช่น การถ่ายเอกสารหรือการสแกนเอกสาร หรือต่ำถึง 10 องศา หมึกอาจจะเลือนลางหายไปได้ จึงไม่เหมาะกับงานเขียนข้อมูลที่มีความสำคัญ เช่น ใบสัญญาหรือที่อยู่-เบอร์ติดต่อ
ปัจจุบันมีปากกาที่สามารถจับคู่สีที่เพื่อน ๆ ต้องการใช้ได้และยังมีฟังก์ชันดินสอกดให้ใช้งานอีกด้วย นอกจากเลือกสีหมึกได้แล้วยังสามารถเลือกดีไซน์ด้ามปากกาตามที่ตัวเองต้องการได้ด้วย ตัวหมึกนั้นหากหมดก็สามารถซื้อเปลี่ยนเฉพาะตัวหมึกได้ ทำให้เพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงเฉดสีของหมึกหรือตัวปลอกปากกาเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ ปากกาแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบจดบันทึกโดยการเขียนเป็นสี ๆ เพื่อให้อ่านง่าย หรือเน้นการจัดกลุ่มข้อความสำคัญโดยใช้การแยกสีของปากกานั่นเอง
ปากกาลูกลื่นหลากสีแบบนี้ก็สามารถใช้ในการจดในรูปแบบ Visual Language ได้เหมือนกัน โดยไม่ต้องพกปากกาสี ๆ หลาย ๆ ด้าม หากอยากจะวาดรูป สร้างแผนภูมิประกอบการจดเลคเชอร์ก็สามารถทำได้ในทันที เพียงแค่กดคลิกปากกาด้วยมือเดียวเท่านั้น เห็นไหมว่าง่าย สะดวกและประหยัดเวลามาก ๆ เลย
ปากกาแบบนี้ประกอบไปด้วยปากกาที่มีสีที่หลากหลายถึง 6 สี รวมอยู่ในเเท่งเดียว สะดวกมาก เพราะพกเพียงแท่งเดียวจบ เหมาะกับวันที่ออกไปเรียนข้างนอกโดยที่ไม่อยากพกอะไรมากนัก
เห็นไหมคะว่า แค่การเลือกปากกาก็มีเคล็ดลับที่เราไม่เคยรู้มาก่อนหลายอย่างเลยทีเดียว หวังว่าเพื่อน ๆ คงตัดสินใจเลือกสินค้าที่ถูกใจกันได้นะคะ แต่ถ้าหากอ่านบทความนี้แล้วยังไม่จุใจ เรายังมีบทความปากกาแบบอื่น ๆ มาแนะนำเพิ่มอีกด้วย อย่าลืมเข้าไปดูกันนะคะ
ตอนนี้หลายคนก็รู้วิธีการเลือกปากกาลูกลื่นให้เหมาะกับตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไป ผู้เขียนจะขอแนะนำให้รู้จักกับสินค้าที่น่าสนใจ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่ใช้จริง ชาว mybest ลองศึกษาคุณสมบัติและรีวิวของรุ่นต่าง ๆ แล้วเลือกให้เหมาะกับตัวเองกันดูนะคะ
มาดูปากกาหมึกเจลกันบ้าง เชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านการเขียนเฟรนด์ชิปด้วยปากกาหมึกเจลยี่ห้อ SAKURA รุ่นนี้กันมาทุกคนอย่างแน่นอน เพราะเป็นปากกาที่มีสีสันสวยงาม และมีความหลากหลายของสีถึง 12 สีด้วยกัน คุณภาพของสีชัดเจนและสามารถสะท้อนแสงไฟได้ด้วย แต่จะมีบ้างบางครั้งที่สีจะเยิ้มไหลออกมาเยอะเกินไป
ถึงแม้ปากกาเจลนี้จะสีสวย น่ารัก แต่ว่าปากกาเจลนี้ก็มีราคาค่อนข้างแพงและหมึกหมดเร็ว ข้อควรระวังคือ อย่าทำตกโดยให้หัวปากกากระแทกพื้นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นหมึกจะออกแบบขาด ๆ ไม่ต่อเนื่อง
เริ่มต้นกันด้วยปากการุ่น Jetstream ซึ่งเป็นปากกาที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะเขียนได้ลื่นปรื๊ด และมีขนาดเส้น 0.5 มม. ซึ่งหนากำลังดี ชนิดของหมึก คือ หมึกเจ็ทสตรีม นวัตกรรมการจาก UNI ไม่มีปัญหาหมึกย้อยหรือหมึกไหลเป็นก้อน เรียกได้ว่าเป็นปากกาที่คนญี่ปุ่นทุกคนต้องเคยใช้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ปากการุ่นนี้ยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง เช่น มีคลิปหนีบทำให้พกพาง่าย บริเวณ Grip Zone หุ้มด้วยยางและสีของด้ามปากกาที่เป็นสีพาสเทล สวยหวาน น่าใช้ เหมาะสำหรับสาว ๆ เป็นอย่างยิ่ง
ก่อนอื่นเลย ซีรี่ย์ GeloPlus มีหลากหลายรุ่นมากค่ะ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ควรจำชื่อและหน้าตาของรุ่นนี้ให้ดี ไม่อย่างนั้นตอนไปซื้อจะสับสนเอาได้ โดยรุ่นนี้เป็นหมึกแบบน้ำมัน หลังใช้งานจึงไม่เยิ้มเปรอะเปื้อน เป็นสูตรปรับปรุงพิเศษ ช่วยให้เขียนลื่นมากกว่าเดิม ใช้งานสบายมือด้วยหุ้มยางบริเวณ Grip Zone นอกจากนี้หัวปากกายังเป็น Nickle Silver ช่วยให้คงทนมากขึ้น หมดปัญหาเขียนสะดุดเพราะหัวปากกาแตก
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของรุ่นนี้ คือ เส้นไม่ค่อยคม สีเส้นไม่สม่ำเสมอและมาในรูปแบบฝาเปิด-ปิด จึงไม่เหมาะกับคนที่ใช้งานถี่และต้องการความรวดเร็ว
เป็นอีกรุ่นค่ะที่ในซีรี่ย์มีชื่อคล้ายกันเยอะเหลือเกิน เพื่อน ๆ ต้องระวังอย่าจำสลับกันด้วยนะคะ เพราะแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันมาก ซื้อผิดทีเสียดายเงินแย่ โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแบบมีฝาปิด เนื้อหมึกเป็นชนิดเจล ซึ่งผู้ที่ใช้จริงรีวิวไว้ว่าเม็ดสีเข้มข้น เนียนลื่น เขียนง่าย แห้งไว มีให้เลือกหลายขนาดหัวและหลายสี พร้อมดีไซน์เก๋มียางหุ้มบริเวณ Grip Zone และคลิปหนีบสำหรับเสียบกระเป๋าเสื้อ
สำหรับรุ่นนี้ เมื่อหมึกแห้งแล้วมักจะจับตัวกันที่หัวปากกา อาจต้องเช็ดออกบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ส่งผลต่อการใช้ ดังนั้นหากใครชอบปากกาเนื้อเจลรุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียวค่ะ
ยังคงอยู่กันที่ซีรี่ย์ Energel ของ Pentel ซึ่งรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ “เขียนลื่น” ด้วยหมึกเจล เม็ดสีเข้มข้น สม่ำเสมอทั้งลายเส้นและแห้งไว มีหัวให้เลือกหลายขนาด มาพร้อมแพ็กเกจหุ้มยางบริเวณ Grip Zone ช่วยให้เขียนสบายมือและคลิปหนีบสำหรับเสียบกระเป๋าเสื้อ รุ่นนี้เป็นแบบกดจึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานเป็นประจำ ปัจจุบันมีหลายเฉดสีให้เลือก ครอบคลุมทุกความต้องการ
นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นคือ “เปลี่ยนไส้ได้” ช่วยประหยัดเงินและเพิ่มความสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม ปากกาน้ำเงินของเฉดสีรุ่นนี้ค่อนข้างเป็นสีฟ้า ใครที่อยากได้หมึกสีน้ำเงินเข้มอาจต้องมองหารุ่นอื่นแทนนะคะ
ใครที่อยากได้ปากกาที่เหมาะสำหรับเขียนและวาดรูปในแท่งเดียว เตรียมอ่านรีวิวของปากกาลูกลื่นชนิดหมึกเจลแบบกดรุ่นนี้ให้ดีเลยค่ะ เพราะเนื้อหมึกมีเม็ดสีเข้มข้น เขียนแล้วสีสม่ำเสมอและเหลวพอเหมาะ ช่วยให้เขียนลื่น แห้งไว หัวปากกาเป็นสแตนเลสจึงคงทนไม่แตกง่าย ที่สำคัญมีสีสันให้เลือกซื้อมากกว่าปากการุ่นอื่น ๆ จะใช้เขียนงานทั่วไปหรือใช้เน้นข้อความก็คุ้มค่าสุด ๆ เลยค่ะ
ดีไซน์ทันสมัย ใช้แล้วไม่ดูแก่หรือเป็นทางการจนเกินไป มาพร้อมยางหุ้มบริเวณ Grip Zone และคลิปหนีบสำหรับเสียบกระเป๋าเสื้อ
หากใครที่อยากมีปากกาที่ไม่ซ้ำแบบใคร เราขอเสนอปากกา STYLE FIT จาก UNI เป็นปากกาที่เหล่าสาว ๆ ออฟฟิศ ชื่นชอบกันมาก เนื่องจากมีลวดลายน่ารัก น่าใช้ ดูเป็นผู้หญิงสุด ๆ และมีหลายดีไซน์ออกมาให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นคอลเลคชั่น DISNEY, SANRIO หรือสีหวาน ๆ พาสเทล เรียกได้ว่า แค่เลือกปลอกปากกาก็กินเวลาไปหลายนาทีแล้ว
นอกจากเรื่องปลอก ปากกาแท่งนี้ยังประกอบไปด้วยหมึก 5 สีใน 1 แท่ง และยังสามารถเปลี่ยนไส้ได้ด้วย เรียกได้ว่า ไม่ว่างานราชหรืองานหลวง เพื่อน ๆ ก็ใช้ปากกาแท่งนี้แท่งเดียวพกไปได้ทุกที่ มีคลิปหนีบพกสะดวกและน้ำหนักเบา
อีกหนึ่งรุ่นจากซีรี่ย์ JETSTEAM จุดเด่นอยู่ที่ “หมึกน้ำมันสูตรพิเศษแห้งไว” ประกอบไปด้วยไส้ปากกา 4 สีในแท่งเดียว ครอบคลุมทุกความต้องการ มาพร้อมดินสอกด เพิ่มคุณสมบัติให้การใช้งานครบครัน หัวปากกาทำจาก Stainless Steel คงทนแม้ตกพื้น เส้นคมกริบ เขียนลื่น เม็ดสีเจ็ทสตรีม ลิขสิทธิ์จาก UNI ลดแรงเสียทาน คมเข้มสม่ำเสมอ กันน้ำกันแดด ไม่ซีดจาง เหมาะสำหรับงานเขียนข้อมูลสำคัญ ๆ หรือให้เป็นของขวัญก็ไม่เลวนะคะ
มียางหุ้มบริเวณ Grip Zone และมีหลายเฉดสีให้เลือก อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ใครที่ไม่ชอบจับปากกาหนัก ๆ อาจจะต้องข้ามไปรุ่นอื่นค่ะ
สำหรับรุ่นนี้จะไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะเป็นปากกาที่คนรักการเขียนหลายคนเลือกใช้ เขียนลื่น สีคมชัด เส้นสีสม่ำเสมอ แห้งไว หัวปากกาทำจาก Nickel Silver จึงแข็งแรงทนทาน มีขนาดเพียง 0.5 มม. ทำให้ได้เส้นเรียวเล็กพอเหมาะ เหมาะสำหรับงานเขียนทั่วไปและงานสำคัญ และราคาถูกมาก ๆ
ปัจจุบันมีให้เลือก 3 สี ครอบคลุมการใช้งานโดยส่วนใหญ่ ด้ามจับเป็นลายริ้ว ช่วยให้จับถนัดมือ มาพร้อมปลอกปากกาแบบหนีบ เพิ่มความสะดวกในการพกพา
มาถึงอันดับหนึ่งซึ่งนาทีนี้ไม่แนะนำไม่ได้แล้ว Pilot Frixion ปากกาลบได้ ที่เขียนได้ไหลลื่นดีมาก และยังลบได้อีกด้วย ขนาดของด้ามปากกาก็จับถนัดมือ แถมยังมียางหุ้มบริเวณที่สัมผัสกับนิ้ว ตัวยางลบก็ลบก็สามารถลบออกได้เกลี้ยง ไม่ทิ้งคราบหมึก และไม่ทำให้กระดาษหลุดลอกเป็นขุย
ขนาดของหัวปากกา 0.5 มม. เขียนง่ายกำลังดี เปลี่ยนหมึกได้ นอกจากสีน้ำเงินแล้ว รุ่นนี้ยังมีทั้งหมด 10 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีสุภาพหรือสีสันสด ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาที่เอาไว้จดเลคเชอร์สวย ๆ ไม่ต้องพกยางลบหรือลิควิดเปเปอร์อีกด้วย แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้ปากกานี้กับเอกสารสำคัญ เพราะหมึกอาจจางหายได้เมื่อโดนความร้อนสูง อย่างการเครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องสแกน เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความดี ๆ ของเราในวันนี้ เพื่อน ๆ คงเห็นกันแล้วว่าวิธีการเลือกปากกามีด้วยกันหลายวิธี ทั้งใช้ชนิดของน้ำหมึกเป็นเกณฑ์หรือลักษณะการใช้งานของเราเอง เพียงเท่านี้เราก็จะได้สินค้าที่เหมาะกับเราแล้ว
ก่อนจะจากกัน ฝากทิ้งท้ายไว้สักนิด หากซื้อจากร้านค้าออนไลน์ อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือด้วยนะคะ เพราะสินค้าประเภทนี้ถ้าถูกเก็บมานานเกินไปอาจเกิดปัญหาหมึกแห้งตันหรือเสื่อมสภาพได้ พอส่งมาถึงมือเราก็ใช้ไม่ได้เสียแล้ว