• รับส่วนลดสูงสุด 50% ดีลสุดคุ้ม - ประหยัดมากขึ้นด้วยคูปอง
หมวดหมู่

8 อันดับ จักรเย็บผ้า ที่คุณไม่ควรพลาด | ยี่ห้อไหนดี? อัพเดทล่าสุดปี 2024


คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อจักรเย็บผ้าแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง จักรเย็บผ้า, จักรเย็บผ้า,และจักรเย็บผ้า นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในจักรเย็บผ้าอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ 8 อันดับ จักรเย็บผ้าแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ชื่นชอบการตัดเย็บ งานประดิษฐ์ DIY ต่าง ๆ การมีจักรเย็บผ้าดี ๆ สักตัวเข้ามาแทนที่การเย็บมือ คงเป็นความสะดวกและให้ความสุขในการสร้างสรรค์ผลงานไม่น้อย และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า จักรที่วางจำหน่ายในบ้านเราไม่ว่าจะเป็น Brother, Janome, SINGER, BERNINA ฯลฯ ต่างก็มีคุณภาพดีและมีความพิเศษที่น่าสนใจมากมายหลายรุ่นให้เราเลือก


ดังนั้น เพื่อให้การลงทุนซื้อจักรเย็บผ้าสักเครื่องหนึ่งได้รับความคุ้มค่าในการใช้งานให้มากที่สุด ทางทีมงานจึงมาพร้อมข้อมูลดี ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนตามหาจักรเย็บผ้าที่ตอบโจทย์ แถมด้วย 10 อันดับ จักรเย็บผ้าทรงประสิทธิภาพ ที่ได้รับความนิยมจนต้องบอกต่อ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีความโดดเด่นแค่ไหนนั้น เราไปอ่านเนื้อหากันเลยค่ะ

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบความประณีต มีงานอดิเรกเป็นการสร้างสรรค์งานผ้า หรือเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ การได้ออกแบบและลงมือตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตัวเองก็เป็นอีกความท้าทายที่น่าสนใจ และยิ่งถ้าใครอยากจะมีจักรเย็บผ้าราคาดี ๆ ไว้ใช้ประกอบอาชีพอย่างจริงจังด้วยแล้วล่ะก็ จักรเย็บผ้าไฟฟ้ายุคใหม่นั้น ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว


ซึ่งจักรเย็บผ้าในปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น "จักรอุตสาหกรรม" ที่มีทั้งแบบเย็บตรงและเย็บเฉพาะ อย่างจักรโพ้ง จักรลา แต่ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมาก นิยมใช้ในระบบการผลิตเสื้อผ้า รวมไปถึงร้านตัดเย็บทั่วไป ส่วนอีกประเภทจะเป็น "จักรใช้งานตามบ้าน" ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และมีแนวโน้มของผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในบทความนี้ เราจะเน้นไปที่การเลือกจักรชนิดนี้เป็นหลักค่ะ


จักรใช้งานตามบ้านสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระบบ คือ ระบบแมคคานิคและระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของวิธีการสั่งงาน แม้ว่ากำลังเครื่องอาจจะไม่รองรับงานหนัก หรือมีชิ้นส่วนบางส่วนที่เป็นพลาสติกบ้าง แต่ก็มีกลไกการทำงานใกล้เคียงกับจักรอุตสาหกรรมหรือจักรเหล็กในอดีตหลายประการ แถมยังมีน้ำหนักเบาและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่าเดิมหลายเท่า จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือใช้ในครัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง


นอกจากระบบการสั่งงานแล้ว จักรเย็บผ้าบางรุ่นก็ยังมีรูปแบบการเย็บต่าง ๆ ให้หลาย ๆ คนได้เลือกใช้ด้วย ทั้งแบบเย็บตรง ซิกแซก เส้นโค้ง สี่เหลี่ยม จนเรียกได้ว่าจากที่ต้องซื้อจักรหลายตัวเพื่อแบ่งรูปแบบการเย็บ ก็หันไปเลือกซื้อจักรเย็บผ้ารูปแบบใหม่เพียงแค่ตัวเดียว แต่ครอบคลุมงานเย็บได้แบบมืออาชีพ แถมยังสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้นด้วย

เพราะการลงทุนซื้อจักรเย็บผ้านั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ดังนั้นเพื่อให้ได้จักรเย็บผ้าที่ดีและคุ้มค่าที่สุด ก่อนอื่นผู้ซื้อต้องรู้ก่อนว่า จุดประสงค์การใช้งานมีอะไรบ้าง แล้วจักรที่ตอบโจทย์ควรมีลักษณะอย่างไร ซึ่งลักษณะต่าง ๆ ที่ว่ามานั้น มีดังต่อไปนี้ค่ะ

"ความเร็วในการเย็บ" คือองค์ประกอบสำคัญที่ผู้ใช้ทุกคนใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อ โดยความเร็วนั้นจะมีหน่วยเป็น ตะเข็บ/นาที ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งความเร็วในการเย็บมากขึ้นเท่าไหร่ ความเร็วในการทำงานก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยเรามักจะเห็นจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมมีความเร็วสูงอยู่ที่ 1,300 ตะเข็บ/นาที ไปจนถึง 1,600 ตะเข็บ/นาที แต่ถึงอย่างนั้น การจะเลือกจักรสักตัวมาไว้ใช้งานในบ้าน ก็ยังไม่มีความจำเป็นถึงขั้นที่จะต้องใช้ความเร็วระดับนี้ค่ะ


ความเร็วของจักรระดับครัวเรือนที่ใช้งานได้อย่างคล่องตัวและเร็วทันใจนั้น แนะนำให้เลือกซื้อความเร็วระหว่าง 1,000 - 1,100 ตะเข็บ/นาที แต่ในขณะเดียวกัน ความเร็วต่อเนื่องระดับที่ว่านี้ ก็เป็นอุปสรรคของงานชิ้นเล็ก ๆ อยู่พอสมควร โดยเฉพาะงานที่ต้องการความประณีต ดังนั้น หากใครที่เน้นความละเอียด ต้องการฝีเข็มเรียบเนียนเป็นพิเศษแล้วล่ะก็ แนะนำให้เลือกความเร็วที่ลดลงเหลือประมาณ 800 - 900 ตะเข็บ/นาที หรือเลือกรุ่นที่สามารถปรับความเร็วได้ดีกว่าค่ะ

หากเป็นในอดีต ถ้าบ้านไหนกำลังจะซื้อจักรเย็บผ้าเข้ามาไว้ใช้งาน การหาพื้นที่จัดวางจักรโลหะที่มีน้ำหนักมากถึง 13-14 kg ก็คงเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลอยู่ไม่น้อย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะจักรเย็บผ้าในปัจจุบันถูกปรับให้มีขนาดเล็กลง เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายไปตำแหน่งอื่นได้อย่างสะดวก มีน้ำหนักเบามากเพียง 2 kg และส่วนใหญ่จะหนักไม่เกิน 9 kg ซึ่งทำให้เรามักจะคุ้นหูกันในชื่อ "จักรกระเป๋าหิ้ว" นั่นเอง


นอกจากนี้ แม้ว่าบางรุ่นจะมีส่วนประกอบอย่างโต๊ะเสริมเข้ามาช่วยวางชิ้นงาน แต่น้ำหนักรวมโต๊ะเสริมก็ยังไม่เกิน 11 kg อยู่ดี และแม้เราจะพูดกันว่าจักรหนักไม่มาก แต่น้ำหนักที่แต่ละคนยกได้ก็ไม่เท่ากันเสมอไป ดังนั้น หากเราต้องการเคลื่อนย้ายได้ด้วยตัวคนเดียว แนะนำให้เลือกน้ำหนักที่เราเองรับได้ก่อน และอย่าลืมเลือกขนาดที่เหมาะกับพื้นที่จัดวางในบ้านกันด้วยนะคะ

สำหรับองค์ประกอบหลักที่ทำให้งานเย็บผ้าออกมาดูดี ก็คือเข็มเย็บผ้านั่นเอง โดยขนาดและคุณภาพของเข็มมีผลอย่างยิ่งต่อรอยเย็บบนชิ้นงาน ทำให้ต้องเลือกใช้อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าเข็มไม่มีคุณภาพหรือเป็นเข็มปลอมลอกเลียนแบบ ก็จะยิ่งทำให้ฝีเข็มไม่เนียน หรือทำให้จักรสะดุดจนอาจพังเสียหายได้

ประเภทของเข็มนั้นคงเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนอาจคาดไม่ถึง ว่าจะมีให้เราได้เลือกกันหลายแบบหลายขนาดเหลือเกิน ทั้งความยาว ความบาง หรือขนาดรูที่เหมาะสำหรับเนื้อผ้าแตกต่างกันออกไป โดยเข็มอย่าง DB x 1 นอกจากจะนิยมใช้กับจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ร่วมกับจักรใช้งานในบ้านที่เป็นรุ่นหนักบางรุ่นได้อีกด้วย มักใช้ในงานเย็บตรงและใช้ความเร็วเป็นหลัก เพราะมีลักษณะเป็นเพลาเข็มแบบกลมและมีความแข็งแรงมาก


นอกจากนี้ เข็ม DB x 1 จะต้องอาศัยทักษะในการติดตั้งเล็กน้อย โดยดันให้เข็มเข้าช่องให้ตรงจุด และต้องหันปลายเข็มด้านที่เว้าออกด้านซ้ายเพื่อสะดวกต่อการสนเข็ม และหากติดตั้งไม่แน่นพอ เข็มก็จะคลอนและส่งผลให้งานเย็บไม่เรียบร้อยได้ เข็มลักษณะนี้ไม่มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป ทำให้เราต้องซื้อจากร้านค้าเฉพาะและต้องมีพื้นฐานในการเลือกเข็ม เพื่อซื้อเข็มมาไว้สำรองหรือเปลี่ยนใช้งานด้วย

เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นไปอีกขั้น รูปแบบเข็มที่ถูกออกแบบมาเพื่อแม่บ้านและงานครัวเรือนโดยเฉพาะ แถมเหมาะสมกับจักรที่ใช้ในบ้านมากที่สุดก็คือ ชนิด HA × 1 เนื่องจากมีขนาดเล็ก มีราคาย่อมเยา ใช้งานง่ายโดยสามารถเสียบเข้าใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องกังวลกับมุมหรือองศาของเข็ม

อย่างไรก็ตาม เข็มรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานเย็บระดับครัวเรือน มีลักษณะค่อนข้างอ่อนและมีโอกาสหักง่าย ดังนั้น หากใครที่ต้องการใช้จักรธรรมดาเย็บผ้าหนา ๆ เป็นครั้งคราว และไม่มีความจำเป็นถึงขั้นต้องใช้เข็ม DB ที่มีราคาสูง ก็สามารถเลือกใช้เข็ม HA × 5 ที่มีความแข็งแรงกว่า HA × 1 แทนได้

ในท้ายที่สุดนี้ ส่วนสำคัญช่วยในการตัดสินใจของหลายคนก็คงหนีไม่พ้นความประณีตสวยงามที่ได้จากการเย็บ ซึ่งจักรเย็บผ้าในปัจจุบันก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีอยู่แล้ว และดูเหมือนว่าจักรเย็บผ้าเหล่านี้ยังมีความสามารถพิเศษที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีเยี่ยมจนน่าเลือกซื้อมาไว้ใช้งานอีกด้วย


ตัวอย่างเช่น ฟังก์ชันการตัดด้ายอัตโนมัติ จะมีส่วนช่วยทำงานได้เร็วขึ้นและได้จำนวนผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่าแบบที่เราจะต้องมานั่งตัดด้ายด้วยกรรไกร หรือจะเป็นฟังก์ชันการเย็บรังดุมอัตโนมัติ การสนเข็มอัตโนมัติ ที่ทำได้อย่างแม่นยำและช่วยประหยัดเวลามากขึ้น


ในจักรเย็บผ้าระบบคอมพิวเตอร์บางรุ่น ยังมีฟังก์ชันกำหนดทิศทางหรือองศาของเข็มปัก ระบบหยุด/ถอยหลังอัตโนมัติ หรือจะเลือกปักสลับลายได้อย่างง่ายเพียงแค่กดปุ่ม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้มากเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

นอกจากเทคนิคสำคัญหลาย ๆ ข้อ ที่เราเอาไว้สังเกตในการเลือกซื้อจักรเย็บผ้าแล้ว 10 อันดับ จักรเย็บผ้าคุณภาพต่อไปนี้ ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การตัดสินใจของทุกคนง่ายขึ้นไปอีกค่ะ

หากคุณต้องการจักรเย็บผ้าสำหรับซ่อมแซมเสื้อผ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ลองสัมผัสประสบการณ์ความคุ้มค่า ด้วยจักรราคาย่อมเยารุ่นนี้กันก่อนเลย เพราะมาพร้อมลายให้เลือกกว่า 12 แบบ สามารถปรับความตึงด้ายได้หลายระดับ ตัวเครื่องทำเป็นรอยเว้าสำหรับวางแขนช่วยเพิ่มความสะดวก นอกจากนี้ ฐานจักรยังออกแบบเป็นแถบสเกลช่วยวัดระยะ ด้านล่างมีช่องว่างสำหรับสอดแขนเสื้อหรือชิ้นงานทรงกระบอกขนาดเล็กให้เย็บได้ง่ายขึ้น ด้านบนออกแบบให้เป็นหูหิ้วช่วยให้พกพาสะดวก มีไฟ LED ช่วยเพิ่มความสว่าง และใต้เครื่องยังมียางรองกันลื่นเพิ่มความมั่นคงขณะเย็บให้ด้วย

มาที่จักรรูปแบบน่ารักน่าใช้กันบ้าง ในรุ่นนี้มีลวดลายการเย็บให้เลือก 11 ลาย ใช้ตีนผีแบบ Clip-On ถอดง่ายไม่ต้องขันสกรูน็อต ตัวฐานเป็นระบบ Free Arm สามารถถอดเปลี่ยนเพื่อเย็บแขนเสื้อ กางเกง หรืองานทรงกระบอกได้ มีระบบย้ำตะเข็มช่วยเพิ่มความแข็งแรง หลอดไฟช่วยเพิ่มความสว่างในการมองเห็น และยังมีปุ่มช่วยปรับความดึงด้าย ช่วยลดปัญหาผ้าย่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะกับมือใหม่หรือคนที่กำลังมองหาจักรระดับเริ่มต้นอย่างยิ่งค่ะ

จักรจากสวิสเซอร์แลนด์ สุดทนทานของคนรักงาน DIY จริง ๆ โดดเด่นด้วยระบบ BERNINA Free Hand System (FHS) ที่ยกหรือลดตีนผีได้ง่ายเพียงแค่ใช้เข่า เครื่องมีกำลังเหลือเฟือ เย็บผ้าหนาได้ไหลลื่น ตีนผีเย็บรังดุมมาพร้อมสไลด์ เบอร์ 3A ทำให้เย็บออกมาได้สม่ำเสมอ สามารถเลือกลายได้มากถึง 91 แบบ ซึ่งในนั้นมีลายที่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้วย มีหลอดไฟ 8 หลอด ช่วยเพิ่มความสว่างและช่วยถนอมสายตาได้ดีค่ะ

จักรรุ่นนี้ถือเป็นจักรจากญี่ปุ่นที่ถูกสั่งจองมากที่สุดอีกรุ่นเลยก็ว่าได้ จักรตัวนี้มาพร้อมลายเย็บ 25 แบบ สามารถปรับความถี่ฝีเย็บได้ 0-4 mm ใช้กระสวยเหล็กกับแกนตั้งหลอดด้ายแบบคู่ ช่วยรองรับทั้งการเดินเข็มเดี่ยวและเข็มคู่ได้เป็นอย่างดี เย็บรังดุมได้ง่ายใน 1 สเต็ป รองรับงานเย็บทรงกระบอกได้ มีหลอดไฟช่วยเพิ่มการมองเห็น และยังมีอีกจุดที่น่าสนใจคือฟังก์ชันการปรับลดฟันจักร เพื่อรองรับผ้าหนา แถมเป็นเทคนิคที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของตีนผีได้ยาวนานอีกด้วยค่ะ

อีกหนึ่งจักรเย็บผ้าดีไซน์น่ารัก ที่แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มาพร้อมกำลังไฟ 6V 1000mA สามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ มีลวดลายให้เลือก 16 แบบ เย็บรังดุมได้ด้วย 4 ขั้นตอน เพิ่มความง่ายอีกขั้นด้วยระบบกรอด้ายเองอัตโนมัติ รวมถึงมีปุ่มปรับความตึงด้ายช่วยลดปัญหางานไม่เรียบร้อยได้ ใช้ไฟ LED แสงสีขาวช่วยส่องสว่าง นอกจากนี้ ยังมีหูหิ้วอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และยังต่อโต๊ะด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้อีกด้วย

จักรระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ใช้จอแสดงผล LCD สีขาวดำขนาด 2.6 นิ้ว มองเห็นได้ชัดเจน จัดเต็มด้วยลายเย็บมากถึง 80 แบบ เปลี่ยนลายได้ง่ายเพียงแค่หมุนวงล้อ ปรับความเร็วได้ 3 ระดับ ปรับความกว้างตะเข็บได้มากสุด 7 mm และมีเซนเซอร์ช่วยบอกความกว้างลาย เพื่อเตือนไม่ให้เราเย็บเลยตำแหน่งได้ สามารถเย็บรังดุมได้ใน 1 ขั้นตอนและเย็บได้มากถึง 8 แบบ มีไฟ LED ถนอมสายตาและช่วยเพิ่มความสว่างในการมองเห็น

จักรสีมิ้นท์สดใสรุ่นนี้มีลวดลายเย็บให้เราเลือกมากถึง 23 แบบ ใช้งานง่ายเพียงหมุนวงล้อ ปรับสีได้ 3 สีคือสีแดง สีเขียวและสีดำ โดดเด่นด้วยระบบการใส่ตีนผีแบบใหม่ ช่วยลดการกระแทกฟันจักร รวมถึงมีตีนผีสำหรับเย็บรังดุม 4 ขั้นตอนมาให้โดยเฉพาะ สามารถปรับระยะห่างฝีเข็มได้ รองรับงานผ้าหลากหลายแบบ ทั้งหนังเทียม, ยีนส์, ผ้าแก้ว, ผ้าแคนวาส, ผ้าซาติน ตัวฐานเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสามารถถอดเข้าออกและใช้เป็นกล่องเก็บอุปกรณ์ได้

ไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับจักรญี่ปุ่นโครงสร้างอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ราคาประหยัดแต่คุณภาพอัดแน่นรุ่นนี้ ที่มาพร้อมลายเย็บ 14 ลาย เย็บรังดุมได้ง่าย ๆ แค่ 4 ขั้นตอน ตะเข็บซิกแซกได้กว้างสุด 5 mm และตะเข็บอื่น ๆ 4 mm ตีนผีเปลี่ยนง่ายด้วยระบบ Clip-On มี Free Arm สำหรับเย็บขากางเกงหรืองานทรงกระบอก มีปุ่มเย็บถอยหลังช่วยเพิ่มความมั่นคง แต่เนื่องจากกระสวยรุ่นนี้เป็นพลาสติก แรงดีดจึงน้อยมากจนทำให้ด้ายไม่เต็มกระสวยได้

เพิ่มความเพลิดเพลินในงานเย็บผ้าด้วยจักร ELVIRA ที่ดีไซน์ออกมาได้สวยงามน่าใช้มาก ในรุ่นนี้มีลวดลายให้เลือก 19 แบบ ปรับลายกว้างได้สูงสุด 5 cm มีโครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ และมีจุดเด่นที่การใช้ระบบกระสวยแบบแนวตั้ง (Vertical Oscillating Hook) ที่หมุนกลับไปมาได้โดยไม่ต้องถอดออกบ่อยครั้ง แถมยังเย็บถอยหลังได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม อีกทั้งยังมีปุ่มปรับแรงกดตีนผีที่ทับผ้า เพื่อช่วยลดรอยตามเนื้อผ้าที่หนาบางแตกต่างกันได้อีกด้วย

เป็นจักรเย็บผ้าราคาประหยัด ที่ทุกคนเห็นตรงกันเลยว่าสะดวกสุด ตอบโจทย์ครบครัน เพราะมีโครงสร้างเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ แข็งแรงทนทานแต่มีน้ำหนักเบา มีไฟ LED สีขาวช่วยส่องสว่างการมองเห็น ปรับความกว้างยาวของตะเข็บได้ มีระบบเข็มคู่พิเศษสามารถเย็บซิกแซกได้กว้างถึง 5 mm ที่สำคัญคือสามารถเย็บผ้ายีนส์ หนังเทียมหรือผ้ายืดที่ว่าเย็บยาก ได้ง่ายสวยงามน่าประทับใจสุด ๆ และยังแถมตีนผีมีให้ถึง 5 แบบอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า การเย็บผ้าด้วยมือหรือการใช้จักรเย็บผ้าขนาดเล็ก ส่วนใหญ่มักออกแบบมาเพื่อรองรับผ้าทั่วไปที่ไม่หนามากจึงทำให้การเย็บหรือซ่อมแซมทำได้ไม่ครอบคลุมเท่าไหร่นัก แต่จักรเย็บผ้าที่เราได้แนะนำไปในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยให้งานเย็บผ้าอย่างผ้าที่หนามาก ๆ เช่น ผ้ายีนส์ ให้ง่ายขึ้นและเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้เรียบร้อยมากขึ้นนั่นเอง รวมถึงช่วยแก้ปัญหาการเย็บผ้าที่บางมาก ๆ อย่างผ้าจอร์เจีย (Georgette), ผ้ากํามะหยี่, ผ้ายืด หรือผ้าถัก ที่เมื่อเย็บตรงปกติมักจะเกิดรอยย่นได้ง่าย เพราะจักรเย็บผ้ารุ่นใหม่เหล่านี้มักจะมีฟังก์ชันการเย็บที่เหมาะกับเนื้อผ้า ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดี แถมยังเปลี่ยนทัศนคติต่องานเย็บปักถักร้อยที่ถูกมองว่ายากให้กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นในพริบตาไปเลยค่ะ


แน่นอนว่าเมื่องานเย็บผ้าง่ายขึ้น การต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นเรื่องง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป แต่หากใครที่ต้องการเย็บผ้าหนังแล้วล่ะก็ จักรเย็บผ้าปกติก็อาจไม่มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ด้านนี้ ดังนั้น ขอแนะนำให้ลองมองหาจักรเย็บผ้าสำหรับงานหนังโดยเฉพาะแทนนะคะ

จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับจุดสังเกตและเทคนิคที่เราได้รวบรวมมานำเสนอกันในครั้งนี้ รวมถึงจักรทั้ง 10 อันดับก็มีความแตกต่างและจุดเด่นที่น่าสนใจตามความต้องการและจุดประสงค์ที่ใช้งานแตกต่างกันออกไป จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของจักรเย็บผ้าไฟฟ้าช่วยให้งานเย็บผ้าในปัจจุบันง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว และมีฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ มากมาย


จะว่าไปแล้ว การที่หลาย ๆ คนได้เย็บผ้าด้วยตนเอง ก็เป็นการพัฒนาความสามารถอีกรูปแบบหนึ่ง บางคนอาจค้นพบตัวตนที่แท้จริง จากงานอดิเรกอาจพัฒนาฝีมือจนกลายเป็นช่างเย็บผ้าหรือดีไซน์เนอร์มืออาชีพก็เป็นได้ ดังนั้นแล้ว ใครที่ชื่นชอบงานเย็บผ้าหรือใครที่กำลังหางานอดิเรกทำยามว่าง ก็อย่าลืมไปเลือกซื้อจักรคู่ใจมาไว้ใช้งานกันนะคะ