• รับส่วนลดสูงสุด 50% ดีลสุดคุ้ม - ประหยัดมากขึ้นด้วยคูปอง
หมวดหมู่

กำลังค้นหา "สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า" ?

New Arrivals

ดีลของวันนี้

จำนวนจำกัด.

รีบเลย! ข้อเสนอนี้จะจบลงในอีก:

สั่งซื้อเลยตอนนี้

นมผงและนมยูเอชทีสำหรับเด็ก

โปรโมชั่นส่วนลดมากมาย

รีบเลย! ข้อเสนอนี้จะจบลงในอีก:

สั่งซื้อเลยตอนนี้

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตัวช่วยประหยัดเวลาในชั่วโมงเร่งรีบ

ปัญหารถติดเป็นปัญหาหลักสำหรับผู้ที่ใช้ชิวิตอยู่ในกรุงเทพฯ หากพักอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน อยากเดินทางแบบชิว ๆ จะทำยังไงได้บ้าง จะให้เดินหรือปั่นจักรยานไปถึงที่ออฟฟิศคงจะได้อาบน้ำกันใหม่อีกรอบ เพราะอากาศของประเทศไทยร้อนเหมือนซ้อมตกนรก แต่ถ้าให้พึ่งพี่วินก็เสี่ยงกับชีวิตเหลือเกิน พี่วินบางคนก็ขี่รถเหมือนออกมาจาก Fast & Furious เฉี่ยวกระจกรถยนต์บ้างหล่ะ หรือฝ่าไฟแดงบ้างหล่ะ ต้องคอยลุ้นว่าวันนี้จะไปถึงที่ทำงานไหม แต่ว่าด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทาง ด้วยขนาดที่เล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา และสามารถพับได้ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้คุณสามารถนำ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก สบาย และยังมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะทำให้คุณไม่ต้องเหนื่อย พร้อมระบบต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือคุณให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่มือใหม่อย่างเราจะเลือกซื้อ Scooter ไฟฟ้าอย่างไรดี เราจึงรวบรวมวิธีเลือกสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาฝากกันเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อกัน

วิธีเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องดูอะไรบ้าง ?

1. น้ำหนักของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า คือ น้ำหนักเพราะมันมีผลต่อความสะดวกในการพกพาจริง ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานอีกด้วย เนื่องจาก Scooter ไฟฟ้าไม่สามารถพาใช้ได้บนทุกเส้นทางในเมืองหลวงและสภาพถนนไม่เอื้อกับการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าสักเท่าไร ฉะนั้นเราอาจจำเป็นต้องแบกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในบางสถานการณ์ เช่น ขึ้นไฟฟ้า หรือขึ้นรถเมล์ ดังนั้นน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นปัจจัยลำดับแรก ๆ ที่เราควรคำนึงถึง แต่ถ้าใครที่คิดจะเอามาใช้แค่ขี่เล่นในหมู่บ้าน ขี่ไปซื้อของที่ร้านปากซอยหรือ 7-Eleven ก็อาจจะไม่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำหนักมาก เลือกตามสไตล์ที่ชอบได้เลย

2. ระยะในการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

อย่างที่เรารู้กันว่า Scooter ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดีในเวลาเร่งรีบ ซึ่งหากเราต้องใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในการเดินทางทุกวัน แบตเตอร์รี่ของสกูตเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่เราควรเลือก นอกจากนี้แล้วควรคำนึงถึงระยะเวลาชาร์จต่อ 1 ครั้งใช้เวลาเท่าไร เพื่อให้สะดวกต่อการใช้ในครั้งต่อไป บางยี่ห้อจะมีคุณสมบัติพิเศษตรงที่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ซึ่งก็จะช่วยให้เพิ่มระยะทางในการเดินทางได้ด้วย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่ต้องแบกน้ำหนักแบตเตอรี่เพิ่มด้วยเช่นกัน (น้ำหนักแบตเตอรี่เสริมโดยปกติจะที่ประมาณ 1 กิโลกรัมกว่า ๆ)

3. มอเตอร์ไฟฟ้า

มอเตอร์ไฟฟ้าและขนาดของล้อควรมีขนาดที่เข้ากันพอดี เพราะหากมอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาดใหญ่กว่าและล้อสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบรวมศูนย์กลางเล็กกว่า เมื่อนำไปใช้งาน จะพบว่าเกิดการลื่นไถลได้ง่าย ซึ่งถือว่าอันตรายมาก ขนาดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ควรใช้เพื่อความปลอดภัยคือ 250W แต่อาจจะเป็นปัญหาเมื่อต้องปีนขึ้นทางลาดชัน สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ขนาด 350W-450W เป็นขนาดมาตรฐาน แต่ผู้ผลิตได้ค้นพบที่จะทำให้มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังแรงขึ้นด้วยแพคเกจขนาดเล็กกว่า นั่นคือการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าที่สูงเท่ากับ 1000 วัตต์ ด้วยมอเตอร์ฮับแบบล้อเดียวที่มีขนาด 10 นิ้ว

4. ความสูงของแฮนด์ต้องอยู่ในระดับที่พอดี

ลองจินตนาการดูว่า คุณต้องยืนทรงตัวอยู่บนสกู๊ตเตอร์นานขนาดไหน หากต้องใช้มันเดินทางวันละ 5 กิโลเมตร หรือประมาณ 5-8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่เจ้ายานพาหนะสองล้อนี้ทำความเร็วได้ประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงควรเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ซับพอร์ตสรีระเราได้ด้วย เทคนิคง่าย ๆ เริ่มจากไปทดลองใช้งานจริงที่ร้านก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเลือกคันที่มีระดับความสูงของแฮนด์พอดีกับความสูงของเรา และปรับความสูงขึ้นลงได้หลายระดับ เวลาขับขี่จะได้ไม่ต้องก้มหรือโก่งหลังมากเกินไป ที่สำคัญการไปลองขี่ด้วยตัวเองจริง ๆ จะช่วยให้เลือกเจ้าสองล้อคู่ใจได้ง่ายขึ้นด้วย

5. ขนาดของล้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

ข้อนี้อาจจะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์การพิจารณาของผู้ใช้งานหลาย ๆ ท่าน แต่ขนาดของล้อถือเป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อหนึ่ง ซึ่งมันเป็นตัวกำหนดน้ำหนักของสกูตเตอร์ไฟฟ้า ความปลอดภัยในการขับขี่ และความสบายในการขับขี่ สำหรับการใช้งานบนท้องถนนในเมือง ควรเลือกคันที่มาพร้อมล้อขนาด 8 นิ้วขึ้นไป เพราะล้อไซส์นี้สามารถเคลื่อนผ่านหลุมขนาดเล็ก เนิน ลูกระนาด หรือพื้นต่างระดับที่ไม่สูงนักได้ดี ช่วยให้ยังทรงตัวและควบคุมทิศทางได้อยู่ ส่วนล้อขนาด 5-6 นิ้ว จะเหมาะกับการใช้เดินทางในหมู่บ้าน หรือใช้เดินทางในตึกและอาคารมากกว่า

6. การพับเก็บที่สะดวกต่อการขนย้าย

ใครที่คิดจะซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้เชื่อมการเดินทาง การพับได้เป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะเห็นหลาย ๆ แบรนด์พยายามชูจุดขายที่การมีที่นั่งในตัว แต่แบบนั้นทำให้พับเก็บค่อนข้างยาก แต่ก็มีบางยี่ห้อที่พับเก็บได้ เช่น Urban-E เป็นต้น ปกติแล้ว Scooter ไฟฟ้า มันจะถูกออกแบบมาให้กดสลักครั้งเดียวแล้วพับได้เลย หากพับเก็บยากและใช้เวลาพับเก็บนาน อาจจะทำให้คุณเสียเวลา แล้วตกรถไฟขบวน BTS หรือรถเมล์ได้ ดังนั้นต้องเช็คให้ดีก่อนเลือกซื้อ

7. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นไหนก็ขี่ตอนฝนตกหนักไม่ได้

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ ไม่ได้ออกแบบมาให้กันน้ำจริงจัง มันกันน้ำกระเซ็นได้ ขี่ตอนฝนตกปรอย ๆ พอไหว แต่ถ้าฝนตกหนัก หรือมีน้ำท่วมขัง แนะนำให้งดขี่ได้เลย ยิ่งถ้าเป็นฤดูฝนนี่ควรพับเก็บไว้ในบ้าน หากเอาออกมาขี่เล่น MV กลางสายฝน Scooter ไฟฟ้าตัวโปรดอาจจะเจ๊งได้ ส่วนพื้นผิวที่เหมาะสำหรับการขับขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าคือ พื้นผิวแข็ง ๆ ประมาณนึง ถ้าไปเจอดินร่วน ๆ ดินแฉะ ๆ หรือ พื้นกรวดที่เต็มไปด้วยกรวดและเศษหิน ไม่เหมาะอย่างยิ่ง พื้นดินลูกรังเลี่ยงได้ควรเลี่ยงเช่นกัน

เช็คสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคาล่าสุด

  • Self Balancing Scooters 7 นิ้ว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 2,522 บาท
  • Mini Segway Hoverboard สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 2,969 บาท
  • Easybike 520 Self Balancing Scooters สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 3,359 บาท
  • Self Balancing Scooters 10 นิ้ว สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคา 3,499 บาท

*สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

จบไปแล้วสำหรับวิธีการเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เหตุผลหลักในการเลือกซื้ออยู่ที่จุดประสงค์ในการใช้ หากต้องการ Scooter ไฟฟ้า เอาไว้ขี่เล่นใกล้ ๆ บ้านก็ไม่ต้องคำนึงเรื่องน้ำหนัก แบตเตอรี่ หรือการพับเก็บมาก แต่ผู้ที่ต้องการใช้เอาไว้เดินทางในเมืองอย่างจริงจัง ก็ควรคำนึงถึงปัจจัยข้างต้นก่อนซื้อ เพราะหากซื้อมาแล้วไม่ตรงตามกับสเปคที่อยากได้ อาจต้องเสียเงินเปล่าโดยใช่เหตุ สำหรับผู้ที่ต้องชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม เราก็มีสินค้าอย่าง จักรยาน จักรยานไฟฟ้า สเก็ตบอร์ด และอื่น ๆ อีกมากมาย ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น ส่วนลดต่าง ๆ ได้ที่ iPrice Thailand เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย