• รับส่วนลดสูงสุด 50% ดีลสุดคุ้ม - ประหยัดมากขึ้นด้วยคูปอง
หมวดหมู่

กำลังค้นหา "ปลากระป๋อง" ?

New Arrivals

หนึ่งในอาหารสำเร็จรูปที่รับประทานง่าย สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก รับประทานที่ไหนหรือทานคู่กับอะไรก็อร่อย นั่นก็คือ " ปลากระป๋อง " นี่เองค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงชื่นชอบปลากระป๋องและต้องมีติดบ้านกันไว้ เพราะสามารถรับประทานกับข้าวสวย ข้าวต้ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือนำไปเป็นส่วนผสมในการปรุงเมนูอื่น ๆ อย่างเช่น ยำ ต้มยำ หรือข้าวผัด ก็อร่อยได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ ยังได้คุณค่าทางสารอาหารมากมายจากปลาทะเลที่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ด้วยกรดไขมันที่จำเป็นอย่างทอรีนหรือโอเมก้า 3 ที่ช่วยพัฒนาระบบสมอง ลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน นับได้ว่าเป็นอาหารที่คุ้มค่าคุ้มราคามากเลยค่ะ


เพราะฉะนั้น ในบทความนี้เราจึงนำเรื่องราวของปลากระป๋องมาให้ทุกคนได้เรียนรู้กันมากขึ้น ทั้งประโยชน์ของปลากระป๋องที่หลาย ๆ คนยังมีคำถามว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์จริงหรือไม่ วิธีการเลือกปลากระป๋อง ที่ไม่ใช่แค่เพียงแบรนด์ที่คุณชื่นชอบ พร้อมทั้ง แนะนำ 10 อันดับปลากระป๋อง ที่คนทั่วไปนิยมซื้อมารับประทานกัน อ่านมาถึงแค่ตรงนี้หลายคนคงอยากซื้อกันขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะคะ ถ้าเช่นนั้นเรารีบไปดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ !

หนึ่งในส่วนผสมหลักของปลากระป๋อง ก็คือปลาทะเล ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า ประโยชน์ของปลาทะเลนั้นมีหลากหลาย เพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ย่อยง่าย เหมาะกับการรับประทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ และกรดไขมันจำเป็นในปริมาณที่สูง รวมถึงไอโอดีนที่มีผลต่อการทำงานของไทรอยด์ เพื่อช่วยในการเผาผลาญพลังงาน


นอกจากนี้ เนื้อปลายังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะทอรีนที่ช่วยในเรื่องของการพัฒนาระบบกล้ามเนื้อ ประสาทและเกล็ดเลือดให้มีความแข็งแรง กรดชนิดนี้ยังสามารถช่วยเกี่ยวกับการไหลเวียนของหลอดเลือดหัวใจ ลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด


นอกจากนี้ ยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีอย่างโอเมก้า 3 (Omega 3) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น และเนื่องจาก ปลากระป๋องสามารถรับประทานได้ทั้งก้างและกระดูก จึงทำให้ได้รับแคลเซียมเพิ่มเติมอีกด้วย อีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ซอสมะเขือเทศ ซึ่งในมะเขือเทศประกอบไปด้วยสารไลโคปีน (Lycopene) เป็นจำนวนมาก และยิ่งน้ำมะเขือเทศได้ถูกนำไปผ่านความร้อน ก็ยิ่งทำให้สารไลโคปีนทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เจ้าสารชนิดนี้มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยค่ะ


เมื่อประโยชน์ของปลากระป๋องมีมากมายเช่นนี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้แล้วนะคะว่า ปลากระป๋องเป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพในราคาสบายกระเป๋า แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกันนะคะ

นอกจากจะเลือกรสชาติและแบรนด์ที่คุณชื่นชอบแล้ว คุณมีวิธีการเลือกปลากระป๋องอย่างไรกันอีกบ้างคะ? บางครั้งหลายคนอาจลืมหรือเผลอไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดหลาย ๆ อย่างก่อนตัดสินใจซื้อ อย่างเช่น วันผลิตและวันหมดอายุ หรือแม้กระทั่งเรื่องของสารอาหาร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีอยู่เขียนอยู่ที่ฉลากแต่น้อยคนนักที่จะให้ความสำคัญ และข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณบริโภคปลากระป๋องได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น เราจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกมาให้คุณ เพื่อที่จะได้ลิ้มรสปลากระป๋องที่มีคุณภาพกันค่ะ

หากสังเกตให้ดีปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ "ปลาแมคเคอเรล" และ "ปลาซาร์ดีน" ซึ่งหลายคนคงจะสงสัยว่าปลาทั้ง 2 ชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร สิ่งหนึ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือราคา แล้วทำไมจึงแตกต่างกัน? ในเมื่อเป็นเนื้อปลาทะเลเหมือนกัน


" ปลาแมคเคอเรล " คือ ปลาทะเลชนิดหนึ่งที่มีลำตัวเพรียวยาว กลมเล็ก ผิวมันวาว และไม่มีเกล็ด มีเนื้อที่หนา แน่น และมีรสชาติมัน เดิมทีปลากระป๋องส่วนใหญ่จะใช้ปลาชนิดนี้ แต่ความต้องการปลากระป๋องเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในระยะหลัง จึงทำให้ปลาชนิดนี้ลดจำนวนน้อยลง ปลากระป๋องที่ทำจากปลาแมคเคอเรลจึงมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย


ส่วน " ปลาซาร์ดีน " เป็นปลาที่ตัวกลม เรียวและมีเกล็ด เนื่องจากปลาชนิดนี้มีเนื้อที่นิ่ม เมื่อนำไปปรุงอาหารจึงไม่สามารถขอดเกล็ดออกได้ แต่มีรสชาติของเนื้อที่หวานกว่าปลาแมคเคอเรล และเนื่องจากปลาซาร์ดีนยังมีจำนวนมาก ภายหลังจึงมีการนำปลาซาร์ดีนมาทำปลากระป๋องมากขึ้น จึงทำให้มีราคาที่ถูกกว่า


สำหรับเรื่องของรสชาติขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคลว่า ชอบเนื้อปลาและรสชาติลักษณะใดมากกว่ากัน ดังนั้นอาจต้องลองซื้อมารับประทานดูค่ะ

โดยปกติอาหารที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ทุกชนิดจะต้องมีการแสดงรายละเอียดของน้ำหนักบนบรรจุภัณฑ์ ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัดของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค สำหรับปลากระป๋องนั้นจะมีส่วนประกอบของน้ำซอสและเนื้อปลา จึงต้องแยกการแสดงน้ำหนักออกเป็น 2 อย่าง ดังนี้


อย่างแรก "น้ำหนักสุทธิ (Net Weight)" คือ น้ำหนักทั้งหมดของอาหาร แต่ไม่รวมกับน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ และอีกหนึ่งน้ำหนักที่ต้องระบุ คือ "น้ำหนักเนื้อ (Drained Weight)" ซึ่งก็คือน้ำหนักของเนื้อหลังจากแยกน้ำออก ข้อมูลน้ำหนักเหล่านี้จะแสดงเป็นกรัม โดยต้องระบุอย่างชัดเจนบนฉลากของบรรจุภัณฑ์


น้ำหนักสุทธิของกระป๋องขนาดปกติส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 155 กรัม และน้ำหนักเนื้อ 93 กรัม ซึ่งเพียงพอต่อการรับประทาน 1-2 คน โดยการนำไปปรุงร่วมกับอาหารเมนูอื่น ๆ แต่หากคุณต้องการรับประทานมากกว่า 2 คนขึ้นไป ก็จะมีปลากระป๋องบางแบรนด์ผลิตขนาดใหญ่วางจำหน่าย ซึ่ง 1 กระป๋องจะสามารถรับประทานได้ 2-3 คนขึ้นไปค่ะ

หนึ่งในคำถามที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่มากเกี่ยวกับปลากระป๋อง นั่นก็คือปริมาณสารอาหาร โดยเฉพาะปริมาณโซเดียม เนื่องจากอาหารกระป๋องจะมีปริมาณโซเดียมสูงเพื่อช่วยในกระบวนการเก็บรักษาให้ได้นานขึ้น


โซเดียมมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำและความดันโลหิตในร่างกาย ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ร่างกายต้องการโซเดียมอยู่ที่ประมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน และปริมาณโซเดียมที่สามารถรับประทานได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4-5 ช้อนชาเท่านั้น ซึ่งหากรับประทานโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไปเป็นประจำ อาจมีความเสี่ยงก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น


สำหรับปลากระป๋อง หากดูข้อมูลโภชนาการบนฉลากบรรจุภัณฑ์ เราจะพบว่าบางยี่ห้อมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง และอาจสูงถึงเกือบ 700 มิลลกรัม ซึ่งคิดเป็น 50% ของปริมาณโซเดียมที่ร่างกายต้องการต่อวัน ดังนั้น เมื่อคุณเลือกซื้อปลากระป๋องครั้งต่อไป ควรจะตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลทางโภชนาการก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้คุณได้รับประทานปลากระป๋องที่อร่อยและปลอดภัยต่อร่างกายมากที่สุด

ในเมื่อปลาทะเลเป็นอาหารที่มีประโยชน์และสามารถนำไปปรุงเมนูอาหารได้หลากหลายเมนู ทางผู้ผลิตปลากระป๋องได้เล็งเห็นถึงความต้องการในตลาดเป็นจำนวนมาก จึงได้คิดค้นปลากระป๋องรสชาติต่าง ๆ ที่ถูกปากคนไทยอย่างรสต้มยำ, ฉู่ฉี่, ยำ และยังมีรสชาติอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถเลือกอร่อยได้อย่างสะดวกสบายตามรสชาติที่คุณชื่นชอบ แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อคุณเลือกปลากระป๋องที่มีรสชาติต่าง ๆ ก็คือ เรื่องของราคาที่สูงกว่าปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ ซึ่งหากคุณสามารถสร้างสรรค์เมนูจากปลากระป๋องได้ด้วยตัวเอง ก็จะทำให้ประหยัดขึ้นได้มากเลยค่ะ

ในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ การระบุวันผลิตและวันหมดอายุที่ชัดเจน เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตจะต้องทำให้ถูกต้อง เพื่อให้ผู้บริโภคทราบถึงระยะเวลาที่สามารถรับประทานอาหารกระป๋องได้อย่างปลอดภัย โดยทั่วไป ปลากระป๋องที่ผ่านการผลิตและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์อย่างถูกสุขลักษณะจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี และเมื่อถึงวันหมดอายุหากไม่มีการเปิดหรือมีการจัดเก็บอย่างดี ก็ยังสามารถเก็บรับประทานต่อได้อีก 1 ปีนับจากวันหมดอายุ เพราะอาหารกระป๋องส่วนใหญ่มีการปิดผนึกสนิทและมิดชิด หากไม่ได้มีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดเชื้อแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์เข้าไปในกระป๋อง เช่น กระป๋องบุบ เสียรูป หรือมีสนิม ก็สามารถเก็บรับประทานได้อย่างมั่นใจ แต่หากยังไม่ถึงวันหมดอายุบนกระป๋อง และเปิดออกมามีกลิ่นหรือสิ่งผิดปกติในกระป๋องก็ไม่ควรรับประทานค่ะ


หากปลากระป๋องไม่ได้มีการระบุวันผลิตและวันหมดอายุที่ชัดเจน ก็อาจทำให้คุณได้รับอาหารที่ไม่มีคุณภาพหรือสะอาดเพียงพอ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคที่มีผลเสียต่อสุขภาพของคุณ เช่น โรคอาหารเป็นพิษ ท้องร่วง เป็นต้น ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อปลากระป๋องหรืออาหารกระป๋องอื่น ๆ ข้อมูลวันผลิตและวันหมดอายุเป็นส่วนสำคัญมากที่คุณจะต้องตรวจสอบให้ดีค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ? การเลือกปลากระป๋องเพื่อให้ได้อาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยไม่ยากเลยใช่ไหมคะ และคุณก็คงเห็นตามห้างสรรพสินค้า ตลาด หรือแม้กระทั่งทางออนไลน์แล้วว่า ปลากระป๋องนั้นมีหลากหลายรสชาติและหลายแบรนด์มากจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องของความอร่อยก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล เราจึงรวบรวมปลากระป๋องยอดนิยมมาให้คุณได้ดูกันถึง 10 อันดับ ในบทความนี้เลยค่ะ

ยำปลากระป๋องเป็นอีกเมนูที่ง่ายและหลายคนชื่นชอบ เพราะมีรสชาติจัดจ้าน รับประทานกับเมนูข้าว ข้าวต้ม หรือเส้นก็อร่อย แค่บางครั้งจะยำเองก็ใช้เวลา ทั้งยังต้องหาซื้อวัตถุดิบ ซีเล็คจึงจับน้ำยำที่ทุกบ้านรับประทานกัน มาผสมเข้ากับปลาซาร์ดีนกระป๋อง จึงทำให้ได้รสชาติของยำที่กลมกล่อม อีกทั้ง ยังมีเครื่องยำอย่างพริกชี้ฟ้าและหอมแดงอยู่ในส่วนผสมด้วย ให้รสชาติเหมือนทำยำด้วยตัวเองมากยิ่งขึ้น แต่รับประทานง่าย สะดวก จะเปิดเมื่อไหร่ก็อร่อยได้ โดยไม่ต้องใช้เวลาในการเตรียมเครื่องทำยำเองเลยค่ะ

ปลาแมคเคอเรลชิ้นโต ๆ ที่อัดแน่นในกระป๋องของแบรนด์นี้ อาจทำให้คุณรู้สึกถึงความแตกต่าง เพราะมาพร้อมกับน้ำซอสพริกไทยดำที่ให้ความหอมและเผ็ดร้อนเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความกลมกล่อมเมื่อรับประทานคู่กับปลาเนื้อแน่นและมัน ให้คุณรับประทานได้ง่ายแบบทันที หรือปรุงคู่กับอาหารอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญราคาก็สบายกระเป๋า นับได้ว่าเป็นคุณค่าที่มาพร้อมกับคุณภาพอย่างแท้จริง

แบรนด์น้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ ด้วยรสชาติที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ปรุงแต่งน้อย ปลากระป๋องเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน นอกจากจะได้ความหวานจากเนื้อปลาซาร์ดีนชิ้นโตและนุ่มที่อัดแน่นอยู่ในกระป๋องแล้ว ยังได้รสชาติเข้มข้นแบบเปรี้ยวเค็มของซอสมะเขือเทศที่หมักกับเนื้อปลา ทำให้คุณได้รสชาติที่กลมกล่อม เข้ากันได้ดีเมื่อรับประทานกับข้าวสวยหรือจะดัดแปลงไปทำเมนูอื่น ๆ ก็อร่อย และยังได้แคลเซียมที่สูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณได้เป็นอย่างดี

สามแม่ครัวเป็นแบรนด์ปลากระป๋องที่ครองใจคนไทยมายาวนาน ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมจากน้ำซอสมะเขือเทศปรุงรสให้เป็นเอกลักษณ์และถูกปากผู้คนทั่วไป มาพร้อมกับปลาซาร์ดีนคุณภาพดีชิ้นพอเหมาะ เนื้อนุ่มไม่แข็ง ทำให้รับประทานง่าย สามารถรับประทานกับเมนูไหนก็อร่อย ราคาสบายกระเป๋า กระบวนการผลิตก็ทันสมัย สะอาด และปลอดภัย ดังนั้น คุณสบายใจได้เลยค่ะว่าได้คุณประโยชน์พร้อมความคุ้มค่าแน่นอนค่ะ

ปลาราดพริกเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยที่ผู้คนหลายชาติยอมรับว่าอร่อย ปุ้มปุ้ยจึงนำปลาแมคเคอเรลมาทอดให้กรอบและราดซอสพริกสไตล์ไทย บรรจุลงกระป๋องเพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา ให้คุณได้ลิ้มรสความเผ็ดจัดจ้านจากซอสพริกที่มีรสชาติหวาน และได้ความกรอบจากเนื้อปลาที่แน่นตามแบบฉบับของปลาแมคเคอเรล จึงทำให้มีกลิ่นหอม กลมกล่อม นอกจากนี้ ปลาราดพริกกระป๋องนี้ ยังได้รับรางวัล Thai Select ว่ามีรสชาติดั้งเดิม ซึ่งคนต่างชาติสามารถลิ้มรสความเป็นไทยจากปลากระป๋องนี้ได้อย่างแท้จริง

ปลากระป๋องที่มาพร้อมกับชิ้นเนื้อปลาแบบแน่น ๆ ให้คุณมากถึง 4 ชิ้นเป็นอย่างน้อย ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณอาจพบปลาแมคเคอเรลมากกว่านั้นใน 1 กระป๋อง แต่เนื้อปลาไม่ฟีบเล็กหรือนิ่มมากจนเกินไปเลยนะคะ และยังคงรสชาติของปลาแมคเคอเรลที่มันและแน่นอยู่เช่นเดิม ส่วนซอสมะเขือเทศ ก็จะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของซีเล็ค คือ มีความเปรี้ยวนำ รสจัดจ้าน มีความหอม และสีที่เข้มเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ราคาจะถูกลง เพื่อให้เข้ากับคอนเซปของความเป็นเดลี่ หรือสามารถรับประทานได้ทุกวันค่ะ

ปลาซาร์ดีนที่คัดคุณภาพเกรดพรีเมียมมาบรรจุลงในกระป๋อง ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและถูกหลักสุขอนามัย ระดับส่งออกต่างประเทศ จึงทำให้ได้เนื้อปลาที่นุ่ม สด ไร้กลิ่นคาว และชิ้นใหญ่ เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำซอสมะเขือเทศที่เข้มข้น รสชาติกลมกล่อม ทั้งเปรี้ยวและหวาน เพื่อให้คุณได้รสชาติของเนื้อปลาที่ชัดยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังให้คุณรับประทานได้ง่า่ย ๆ ด้วยฝาห่วงแบบดึง โดยไม่ต้องงอที่เปิดกระป๋อง เปิดปุ๊ป รับประทานได้ปั๊ป ทั้งคุณภาพ อร่อย และง่ายขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้วล่ะค่ะ

พอเห็นโลโก้ปลายิ้มของแบรนด์ก็ทราบได้เลยนะคะว่า เป็นแบรนด์ดั้งเดิมของคนไทย ที่มาพร้อมกับชิ้นเนื้อปลาแน่นชิ้น แม้ว่าเนื้อจะแน่นแต่ก็นุ่มไม่แข็งกระด้าง บรรจุลงในซอสมะเขือเทศเข้มข้น จึงทำให้รสชาติที่ออกมามีลักษณะพิเศษและจัดจ้านพอสมควร ส่วนความเค็มอยู่ในระดับที่กำลังพอดี นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าทางอาหารของกรดไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุที่สูง จึงให้คุณได้ประโยชน์เต็ม ๆ ในราคาสบายกระเป๋า

หากเห็นกระป๋องสีเขียวแดง ดึงฝาห่วงเปิดออกมาได้แบบง่าย ๆ พอเปิดออกมาคุณจะเห็นชิ้นปลาใหญ่อัดแน่นเต็มกระป๋อง มาพร้อมกับซอสที่รสชาติเข้มข้นแบบเปรี้ยวหวานลงตัวมั่นใจได้ในความอร่อย เพราะเขาดังเรื่องซอสมะเขือเทศอยู่แล้ว อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างโอเมก้าและ DHA โดยที่ไม่เติมสารปรุงแต่ง เจือสี และสารกันเสียใด ๆ จุดสำคัญที่ทำให้โรซ่าแตกต่างจากแบรนด์อื่น นั่นก็คือไม่ใส่ผงชูรส จึงทำให้คุณได้รับรสชาติจากธรรมชาติและประโยชน์ที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงค่ะ

อะยัมได้คัดสรรปลาแมคเคอเรลที่มาจากแหล่งน้ำเย็นแบบยั่งยืนเท่านั้น เพื่อให้ได้เนื้อปลาแน่น ชิ้นใหญ่ และมีไขมันดีที่เต็มเปี่ยม คุณจึงได้รสชาติความมันและเนื้อปลาแบบเต็มปากเต็มคำ และด้วยความตั้งใจของแบรนด์ในการใช้ปลาสด จึงทำให้คุณไม่รู้สึกถึงกลิ่นคาวของปลา ที่สำคัญยังมีโซเดียมต่ำซึ่งดีต่อสุขภาพของคุณอย่างแท้จริง ส่วนน้ำซอสอาจให้มาไม่มากนัก เพราะในกระป๋องถูกแทนที่ด้วยเนื้อปลา แต่ก็ให้รสชาติความหวานจากมะเขือเทศแท้ ๆ แม้ว่าราคาจะสูงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับสารอาหารที่มีอยู่ในกระป๋องนี้แล้ว คุ้มค่าค่ะ

แม้ว่าปลากระป๋องอาจมีการเติมรสชาติบางอย่างเพื่อให้เกิดความกลมกล่อมในอาหารกระป๋อง แต่ก็เป็นอาหารราคาประหยัดที่หลายคนชอบนะคะ ด้วยความสะดวกและง่ายในการรับประทาน อีกทั้งยังช่วยเสริมเมนูอาหารด้วยคุณค่าจากปลาทะเล ทำให้ปลากระป๋องเป็นอาหารที่ไม่ตกยุคสมัย รับประทานได้แทบจะทุกวัย แค่เพียงใส่ใจรายละเอียด สังเกตข้อมูลบนตัวฉลากไม่ว่าจะเป็นวันผลิตและวันหมดอายุ และข้อมูลปริมาณทางโภชนาการ ส่วนเรื่องของชนิดปลาและรสชาตินั้น ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล จึงอาจทำให้ตัดสินได้ยากว่าแบบใดอร่อยกว่ากัน


นอกจากนี้ การรับประทานอาหารกระป๋องควรรับประทานอย่างพอดีเพราะมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง และพยายามรับประทานอาหารอื่น ๆ ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนในแต่ละวันนะคะ