เครื่่องประดับออกงานและ เครื่องประดับ ผู้หญิง ที่ผลิตจากหยกเนื้อแข็งของพม่าเทคนิคการดู หยกแท้ หรือไม่ คือจับไปที่ กำไลหยก โดยธรรมชาติของหยกจะมีควาเย็นในตัว หรือ ทดสอบโดยการนำเส้นผมมาพันรอบๆหยก แล้วเอาไฟลน หากเส้นผมขาดแสดงว่าเป็น หยกปลอม เพราะ หยก เกรด a จะดูดซับความร้อนไม่ให้เส้นผมขาดธรรมชาติจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
Type a Jade คือหยกธรรมชาติไม่ผ่านขวนการปรับปรุงใดๆ เป็นหยกเกรด A
Type b Jade คือเจไดต์ หยกแท้ที่สีทึบหม่นไม่ค่อยสวย จึงนำมากัดหรือฟอกด้วยกรด (bleach) เพื่อเอาหินแร่สีน้ำตาลหรือดำออก ซึ่งจะทำให้เนื้อหยกแตกร้าวหรือกร่อนลง จึงต้องมีการเติมเรซินหรือพอลิเมอร์ลงไป ซึ่ง B มาจากคำว่า bleach นั่นเอง
Type c Jade คือเจไดต์ หยกแท้ที่สีซีด ไม่สวย จึงนำมาย้อมให้สีเข้มขึ้น C มาจากคำว่า color นั่นเอง แต่พอใช้ไปนานๆสีที่ย้อมอาจจะซีดลงได้สรุปว่าหยกแท้ก็คือ หยกธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรับปรุงใดๆ ทั้งสิ้น ที่เรียกว่า A Jade แต่มีหยกธรรมชาติที่มีตำหนิ หรือสีไม่สวยงามก็จะถูกนำมาปรับปรุงทั้งสีและความใสหยกพม่า Jade คือ หยกที่ดีที่สุดในโลก มีความต้องการในตลาดสูงหยกสีเขียว มีความหมายในด้านอดมสมบูรณ์ ร่มเย็นเป็นสุข ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ชาวจีนเชื่อว่าหยกสีเขียวเป็นต้นกำเนิดของคำว่า “เงินทองไหลมาเทมา”หยกสีขาว มีความหมายว่า เป็นสิ่งที่เอาความโชคดี มาสู่ผู้เป็นเจ้าของทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งเน้นลงไปถึงพลังจิตใจที่ใสสะอาดเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังนำมาสู่ ความอายุยืนอีกด้วยหยกแดง มีความหมายถึง การรับรู้ของอารมณ์ความรักได้ดี ทั้งยังเป็นหยกที่ช่วยลดความโกรธและความเครียดต่างๆได้อีกด้วยทั้งยังช่วยก่อเกิดความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าทำ มีพลังสร้างผลงานใหม่ๆมาได้อีกหยกเหลือง หรือ หยกน้ำผึ้ง เป็นสัญลักษณ์แห่งการกระตุ้นชีวิตชีวาให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานทั้งยังเป็นการเพิ่มพลังให้ผู้สวมใส่ตลอดเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแรงบันดาลใจ