แม้ว่าถุงมือยางจะถูกออกแบบมาให้ใช้ได้อย่างอเนกประสงค์ แต่การเลือกซื้อถุงมือยางให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานนั้นจะช่วยให้คุณใช้งานถุงมือยางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น ถุงมือยางที่กำลังใช้อยู่ สามารถใช้งานซ้ำได้หรือไม่ เพราะถุงมือยางบางประเภทก็สามารถใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ แต่บางประเภทก็เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง หรือถุงมือยางตัวนี้มีความเหมาะสมที่จะนำมาป้องกันสารเคมีหรือไม่ เป็นต้น ดังนั้น จึงควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ของถุงมือยางให้ลึกซึ้ง เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องที่สุดนั่นเองค่ะ

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า ถุงมือยางนั้นมีลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย เรามาดูกันค่ะว่า ถุงมือยางแต่ละแบบนั้นมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ถุงมือยางชนิดนี้เป็นถุงมือยางที่มีไว้สำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเอาไว้ใช้ในการทำงานตามโรงพยาบาลหรือคลินิก ซึ่งคุณสมบัติของถุงมือยางประเภทนี้ คือ มีความบาง ยืดหยุ่นสูง สวมใส่ง่าย กระชับมือ ผู้สวมใส่จึงสามารถหยิบจับและใช้ทำงานที่อาศัยความละเอียดอ่อนได้ดี ถุงมือยางทางการแพทย์ยังแบ่งออกได้อีก 2 แบบย่อย ๆ ได้แก่

• ถุงมือยางสำหรับการผ่าตัด (Surgical Gloves)

เป็นถุงมือที่มีความยาวถึงระดับข้อศอก จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อมาเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้นและเหมาะที่จะใช้งานเพียงแค่ครั้งเดียว

• ถุงมือยางสำหรับการตรวจโรค (Examination Gloves)

เป็นถุงมือที่มีความยาวถึงแค่ระดับข้อมือ ใช้สำหรับการตรวจสอบโรคจากผู้ป่วย เหมาะที่จะใช้งานเพียงแค่ครั้งเดียวเช่นกัน

ถุงมือยางประเภทนี้มักไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เนื่องจากต้องผ่านการสัมผัสกับเชื้อโรคและสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ส่วนมากจึงเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง แม้จะไม่ได้นำไปใช้ในทางการแพทย์ก็ไม่ควรใช้ซ้ำค่ะ

ถุงมือยางรูปแบบนี้มักถูกผลิตขึ้นให้มีความหนาและแข็งแรงมากกว่าปกติ เพื่อให้ทนทานต่อสารเคมีที่อันตรายได้ ผู้ใช้งานจะได้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อสวมใส่ขณะทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม แต่ถุงมือยางสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท ก็ไม่ได้มีความหนาหรือแข็งแรงมากเท่าไรนัก ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงานในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ๆ นอกจากนี้ ถุงมือยางประเภทนี้ บางรูปแบบก็สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ แต่จะต้องผ่านการทำความสะอาดและเก็บรักษาอย่างถูกวิธีด้วยนะคะ

โดยส่วนมาก ถุงมือยางชนิดนี้มักมีจุดประสงค์เอาไว้ใช้เพื่อทำความสะอาดบ้านเป็นหลัก มีคุณสมบัติ คือ ขนาดพอดีมือและไม่บางหรือหนาจนเกินไป แต่มีความทนทานต่อการใช้งานในระดับหนึ่ง เช่น ทนต่อสารเคมีที่มีอยู่ในน้ำยาล้างจาน, น้ำยาล้างห้องน้ำ, ทนทานต่อแรงขัดหรือแรงในการซักล้าง เป็นต้น

ถุงมือยางประเภทนี้เป็นแบบที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ แต่ผู้ใช้งานจะต้องทำความสะอาดถุงมือให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นแล้วถุงมือยางก็จะเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้นค่ะ

ถุงมือยางฟู้ดเกรด (Food Grade) หรืออีกชื่อ คือ ถุงมือยางสำหรับทำอาหาร มีจุดประสงค์สำหรับสวมใส่ทำอาหารตามชื่อเลยค่ะ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสัมผัสกับวัตถุดิบโดยตรง เพราะบางครั้งวัตถุดิบเหล่านั้นก็มีโอกาสที่จะปนเปื้อนเชื้อโรคในขณะที่อาหารยังดิบอยู่ หรืออาจจะนำมาใช้สำหรับคนทำครัว เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้อาหารเหล่านั้นก็ได้ค่ะ

คุณสมบัติของถุงมือยางประเภทนี้ คือ จะต้องผ่านการรับรองแล้วว่าสามารถใช้เพื่อสัมผัสกับอาหารได้ และจะต้องทนความร้อนในระดับหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่า ถุงมือจะไม่ละลายจนสารพิษปนเปื้อนในอาหาร และที่สำคัญ คือ ไม่มีกลิ่นเหม็น ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลว่าอาหารจะมีรสชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิมหรือไม่ ดังนั้น หากใครกำลังมองหาถุงมือยางประเภทนี้อยู่ ควรจะต้องเลือกอย่างพิถีพิถันพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ

ภายในถุงมือยางบางยี่ห้อจะมีการเติมแป้งข้าวโพดเอาไว้ข้างในด้วย เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายมือมากยิ่งขึ้น เพราะหากต้องสวมใส่เป็นเวลานาน ๆ จะเริ่มมีเหงื่ออกตามฝ่ามือ แป้งจึงทำหน้าที่ในการดูดซับเหงื่อที่ซึมออกมานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแป้งข้าวโพดที่ใส่ลงไปในถุงมือยางจะไม่ได้เป็นอันตรายใด ๆ แต่ในกรณีผู้ที่แพ้แป้งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้น ผู้ผลิตบางรายจึงได้ออกผลิตภัณฑ์ถุงมือยางชนิดที่ไม่ใส่แป้งออกมาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้นค่ะ

วัสดุที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตถุงมือยาง มีทั้งแบบที่มาจากธรรมชาติ เช่น ยางพารา กับแบบที่เป็นยางสังเคราะห์ เช่น ยางไนไตร (Nitrile) ซึ่งแต่ละแบบต่างก็ถูกผลิตขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคนำไปใช้งานในบริบทที่แตกต่างกัน ฉะนั้น ผู้บริโภคจึงควรศึกษาให้เข้าใจว่าถุงมือยางจากวัสดุประเภทต่าง ๆ นั้นมีคุณสมบัติอย่างไร และเหมาะที่จะนำไปใช้งานในลักษณะไหนบ้าง

ถุงมือยางที่ผลิตขึ้นจากวัสดุตามธรรมชาติจะนำน้ำจากต้นยางพาราที่มีลักษณะสีขาวขุ่นมาเติมแต่งด้วยสารเคมีตามสูตร แล้วจึงนำไปเข้ากระบวนการผลิตต่อไป ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ฉีกขาดง่าย ทนต่ออุณหภูมิและสารเคมีได้ดีในระดับหนึ่ง โดยถุงมือยางที่ถูกผลิตขึ้นจากน้ำยางธรรมชาติที่พวกเราคุ้นเคย ได้แก่ ถุงมือยางทางการแพทย์, ถุงมือยางสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น

ถุงมือยางสังเคราะห์ถูกผลิตจากยางไนไตร (Nitrile) หรือยาง NBR (Acrylonitrile-Butadiene Rubber) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่เกิดจากการสังเคราะห์สารมอนอเมอร์สองชนิดขึ้นไปของอะไครโลไนไตร (Acrylonitrile) และ บิวทาไดอีน (Butadiene) ทำให้มีคุณสมบัติที่ต้านทานต่อสารเคมีและน้ำมันได้ในระดับดีเยี่ยม รวมถึงสามารถกันน้ำได้และทนทานต่อความร้อนอีกด้วย ถุงมือชนิดนี้จึงมักพบตามการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่ก็มีถุงมือไนไตรบางประเภทที่สามารถนำมาใช้ในครัวเรือนหรือใช้สำหรับการประกอบอาหารได้เช่นเดียวกันค่ะ

ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วนะคะ กับการจัด 10 อันดับถุงมือยางที่ผู้คนนิยมใช้กัน แถมยังหาซื้อผ่านทางออนไลน์ได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณผู้อ่านรู้สึกสนใจและอยากจะซื้อตามบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยล่ะค่ะ จะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

เนื่องจากถุงมือยางนั้นมีหลากหลายแบบและหลากหลายประเภท ทั้งแบบที่มีหรือไม่มีแป้ง ทำจากยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์ รวมถึงสภาพผิวที่มือของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันอีกด้วย คุณจึงควรเลือกซื้อถุงมือยางโดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งานและความพึงพอใจของตัวเองเป็นหลัก เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการแพ้หรือระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นกับมือของคุณนะคะ สุดท้ายนี้ อย่าลืมนำแนวทางการเลือกถุงมือยางของเราไปใช้ประกอบการตัดสินใจในทุก ๆ ครั้งด้วยนะคะ